วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2555

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคเบาหวาน


โรคเบาหวานคืออะไร


อาหารที่รับประทานเข้าไปส่วนใหญ่จะเปลี่ยนจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดเพื่อใช้เป็นพลังงาน เซลล์ในตับอ่อนชื่อเบต้าเซลล์เป็นตัวสร้างอินซูลิน อินซูลินเป็นตัวนำน้ำตาลกลูโคสเข้าเซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดเนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือประสิทธิภาพของอินซูลินลดลงเนื่องจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอยู่เป็นเวลานานจะเกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ตา ไต และระบบประสาท

ฮอร์โมนอินซูลินมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร


อินซูลินเป็นฮอร์โมนสำคัญตัวหนึ่งของร่างกาย สร้างและหลั่งจากเบต้าเซลล์ของตับอ่อน ทำหน้าที่เป็นตัวพาน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงานในการดำเนินชีวิต ถ้าขาดอินซูลินหรือการออกฤทธิ์ไม่ดี ร่างกายจะใช้น้ำตาลไม่ได้ จึงทำให้น้ำตาลในเลือดสูงมีอาการต่างๆของโรคเบาหวาน นอกจากมีความผิดปกติของการเผาผลาญอาหารคาร์โบไฮเดรตแล้ว ยังมีความผิดปกติอื่น เช่น มีการสลายของสารไขมันและโปรตีนร่วมด้วย

อาการของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานชนิดที่สองจะมีอาการเป็นอย่างช้าๆโดยที่ผู้ป่วยอาจจะไม่ได้สังเกตุ อาการที่พบได้บ่อยคือ น้ำหนักลด หิวเก่งรับประทานอาหารเก่ง ดื่มน้ำเก่ง ปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวันและกลางคืน
ส่วนโรคเบาหวานชนิดที่1 อาการค่อนข้างจะเฉียบพลันอาการทำนำผู้ป่วยมาพบแพทย์ได้แก่ ปัสสาวะบ่อย หิวบ่อย น้ำหนักลด และบางท่านอาจจะมาด้วยโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่นภาวะเลือดเป็นกรด
ผู้ป่วยโรคเบาหวานหลายคนมาโรงพยาบาลด้วยเรื่องโรคแทรกซ้อนโดยที่ไม่มีอาการเบาหวานมาก่อน โรคแทรกซ้อนที่นำผู้ป่วยมาได้แก่

ใครมีโอกาสเป็นโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ดังนั้นผู้ที่มีญาติสายตรง เช่น พ่อ แม่ พี น้อง เป็นเบาหวานจะมีความเสี่ยงเป็นเบาหวานเพิ่มขึ้น หากมีทั้งพ่อ และแม่เป็นเบาหวานจะมีความเสี่ยงเป็นเบาหวานร้อยละ 50
นอกจากนั้นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อเบาหวานได้แก่ ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือว่าอ้วน ไม่ออกกำลังกาย เป็นไขมันในเลือดสูง กลุ่มคนเหล่านี้จะเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 สำหรับชนิดที่ 1 ทุกคนมีสิทธิ์เป็นเท่าๆกัน

การวินิจฉัยโรคเบาหวาน

วิธีการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานแน่นอนคือการเจาะเลือดตรวจหาระดับน้ำตาล แต่วิธีการเจาะมีหลายวิธี
  • เจาะตอนเช้าหลังจากอดอาหาร 8 ชั่วโมง หากน้ำตาลมากกว่า 126 มก%จะถือว่าเป็นเบาหวาน
  • เจาะแบบซุ่ม หากมากกว่า 200 มก%และมีอาการเบาหวาน
  • ทดสอบความทนต่อน้ำตาล
  • การเจาะหาค่าน้ำตาลเฉลี่ย

การคัดกรองโรคเบาหวาน

เนื่องจากโรคเบาหวานจะมีอาการเป็นอย่างช้าๆโดยที่ไม่มีอาการ นอกจากนั้นโรคเบาหวานในระยะที่เริ่มเป็นจะไม่มีอาการ การคัดกรองจะทำให้การวินิจฉัยโรคได้เร็วยิ่งขึ้น การคัดกรองหมายถึงการคัดเลือกผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานมาเจาะเลือดเพื่อวินิจฉัย กลุ่มเสี่ยงดังกล่าวได้แก่ น้ำหนักเกิน ไม่ออกกำลังกาย อ้วน มีประวัติญาติสายตรงเป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น

ชนิดของโรคเบาหวาน


โรคเบาหวานมีด้วยกันหลายชนิด ชนิดที่พบบ่อยได้แก่ชนิดที่ 2 พบในคนสูงอายุและมีน้ำหนักเกิน ส่วนชนิดที่ 1 มักจะพบในเด็กเป็นพวกขาดอินซูลิน การรักษาโรคเบาหวานทั้งสองชนิดไม่เหมือนกัน โรคแทรกซ้อนก็ต่างกัน การรักษาเบาหวานชนิดที่2จะเน้นเรื่องการควบคุมน้ำหนัก การควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย ส่วนเบาหวานชนิดที่1จะให้อินซูลินเพื่อรักษาโรคเบาหวาน



หลักการรักษาโรคเบาหวาน

หลักการรักษาโรคเบาหวานจะต้องทำให้ผู้ป่วยอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข มีคุณภาพชีวิตที่ใกล้เคียงคนปกติ และไม่มีโรคแทรกซ้อนซึ่งต้องประกอบไปด้วย
  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร
  • การงดบุหรี่
  • การดูแลสุขภาพทั่วๆไป
  • การควบคุมความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ
  • การใช้ยาเม็ดหรือยาฉีด

โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งหรือตีบ หากหลอดเลือดแข็งหรือตีบที่อวัยวะส่วนไหนก็จะทำให้เกิดโรคที่อวัยวะนั้น ดังนั้นโรคเบาหวาจะมีโรคแทรกซ้อนทุกระบบ ได้แก่
  • ระบบประสาท
  • ตา
  • ไต
  • หัวใจและหลอดเลือด
  • ผิวหนัง
  • ช่องปาก

เป้าหมายของการรักษาเบาหวาน

โรคเบาหวานส่วนหนึ่งเกิดจากกรมพันธ์ อีกส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรม โรคเบาหวานที่มีโรคแทรกซ้อนมักจะปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดหลอดเลือดแดงตีบ ดังนั้นเป้าหมายของการรักษาโรคเบาหวานจึงจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การควบคุม
  • ความดันโลหิต
  • ควบคุมระดับไขมันในเลือดให้ใกล้เคียงเป้าหมาย
  • ควบคุมน้ำหนักตัวอย่าให้อ้วน
  • ออกกำลังกาย
  • ควบคุมระดับน้ำตาล และน้ำตาลเฉลี่ยให้ใกล้เคียงปกติ
การรักษาเบาหวานที่ดีจะต้องมีระดับน้ำตาล และน้ำตาลเฉลี่ยดี ความดันโลหิต ระดับไขมัน น้ำหนัก การออกกำลังจะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอ่านที่นี่

การติดตามและประเมินการรักษา

การประเมินการรักษาโรคเบาหวานสามารถทำได้สองแบบคือ ประเมินด้วยแพทย์ ซึ่งแพทย์จะเจาะหาระดับน้ำตาล น้ำตาลเฉลี่ย การตรวจปัสสาวะหาโปรตีน การเจาะเลือดตรวจไขมัน การตรวจร่างกาย การวัดความดันโลหิต การตรวจตา การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น
ในบางกรณีที่ผู้ป่วยจะต้องเจาะเลือดด้วยตัวเอง เพื่อการควบคุมโรคเบาหวานให้ดีเพื่อลดโรคแทรกซ้อน

แม้ว่าจะมียารักษาโรคเบาหวานเพิ่มเติม แต่ผลการรักษายังไม่ดี ประกอบกับจำนวนผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหานมีมากขึ้น ผูป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อเบาหวานมีจำนวนมากขึ้น และอายุที่เป็นโรคเบาหวานมีอายุน้อยลง ดังนั้นการป้องกันโรคเบาจะต้องทำก่อนการเกิดโรคเบาหวานซึ่งการป้องกันทำได้โดย
  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
  • และการใช้ยา

การใช้ยารักษาโรคเบาหวาน

ยารักษาเบาหวานมีด้วยกันหลายชนิด แต่ละชนิดออกฤทธิ์ต่างกัน การเลือกใช้ยาอย่างถูกต้องจะป้องกันโรคแทรกซ้อนจากยา ยาเบาหวานแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ แต่ละกลุ่มก็มีข้อบ่งชี้ในการใช้แตกต่างกัน






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น